ตะกั่ว เป็นสารโลหะหนักที่ร่างกายรับเข้าไปในปริมาณมากเกินอาจมีพิษต่อระบบประสาทและสมอง และระบบต่าง ๆ เรียกว่า ภาวะตะกั่วเป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้เป็นครั้งคราว ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ สาเหตุ เกิดจากการสูดไอตะกั่ว หรือกินหรือสัมผัสสารตะกั่ว (ดูดซึมผ่านผิวหนัง) เป็นเวลานาน.


พิษตะกั่วเฉียบพลัน อาการสำคัญที่พบคือ อาการของโรคเนื้อสมองเสื่อมเฉียบพลัน มักเกิดเมื่อระดับของตะกั่วในเลือดมากกว่า 120 ไมโครกรัมต่อเดซิลิตร แต่มักจะพบในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี. ในปี 2005 มีการศึกษาพบว่า สารตะกั่วส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะในเด็ก นอกจากจะส่งผลกระทบต่อระดับความเข้มข้นของเลือดแล้ว ยังพบว่า สารตะกั่ว. ภาวะตะกั่วเป็นพิษ เป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำงานในโรงงานแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังพบได้ในคนที่เคยถูกยิงด้วยกระสุนที่เป็นตะกั่วฝังอยู่ในตัว โดยเฉพาะในข้อกระดูก.

จะเห็นว่าตะกั่วเป็นสารพิษร้ายแรงต่อร่างกายมากมายทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นโรคนี้ถ้าสามารถมาหาหมอแต่เนิ่น ๆ ก็ยังมีทางเยียวยาให้หายได้ ยังมี “ โรคตะกั่วเป็นพิษ”.


อาการที่ร้ายแรงก็คือ พิษตะกั่วทำลายสมอง (ซึ่งมักเกิดกับเด็กเล็กมากกว่าผู้ใหญ่) ทำให้เกิดอาการเดินเซ อาเจียน ซีม เพ้อ ถ้ารุนแรงก็จะทำให้ชัก หมดสติ และอาจถึงตายได้ ถ้าไม่ตายก็ทำให้สมองพิการ. เช่น ความบกพร่องในการปล่อยของเสียจากโรงงาน หรือเหมืองแร่ ทำให้ตะกั่วซึ่งสลายได้ยากมีการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม ทั้งใน ดิน น้ำ อากาศ และอาหาร. ตะกั่วอนินทรีย์เป็นพิษ (inorganic lead poisoning) ในผู้ใหญ่อาการตะกั่วเป็นพิษมักจะค่อยเป็นค่อยไป อาการที่เป็น triad คือ อาการปวดท้อง โลหิตจาง และมี peripheral neuropathy อาการต่างๆ.

อาการพิษเฉียบพลัน จากสารตะกั่ว ส่วนมากเกิดจากการรับประทาน ฉะนั้นแพทย์จะต้องล้างท้อง โดยใช้สารละลาย 3 เปอร์เซ็นต์โซเดียม หรือ แมกนีเซียมซัลเฟต และหรือให้ผงถ่าน (Activated Charcoal).


ข้อมุูลจากองค์การอนามัยโลก (who) ระบุว่า “โรคปัญญาอ่อนจากสารตะกั่ว” เป็น 1 ใน 10 โรคร้ายแรงที่สุดอันเกิดจากปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม.